รัฐบาลสั่งประชาชนทุกคนให้อยู่กับบ้านอย่างน้อย 3 สัปดาห์ มีผลทันทีคืนวันที่ 23 มี.ค. หลังประชาชนจำนวนมากฝ่าฝืนคำแนะนำของรัฐบาลด้านรักษาระยะห่างในสังคม แห่เที่ยวอุทยานแห่งชาติ สวนสาธารณะ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ออกแถลงทางโทรทัศน์เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 23 มี.ค. ตามเวลาในอังกฤษ ออกคำสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้าน อนุญาตให้ออกมาซื้อของใช้ที่จำเป็น ออกกำลังกายประจำวัน พบแพทย์ และเดินทางไปทำงานที่ไม่สามารถทำอยู่บ้านได้
ในประกาศคืนนี้ รัฐบาลสั่งปิดร้านค้าทุกประเภทที่ไม่ได้ขาย “สินค้าที่จำเป็น” เช่น ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า หลังจากที่ออกคำสั่งไปเมื่อ 20 มี.ค. ปิดแหล่งพบปะทุกประเภทตั้งแต่ ร้านอาหารไปจนถึงยิมออกกำลังกาย ไม่มีกำหนด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืน
คำสั่งดังกล่าวออกมา หลังทางการประกาศจำนวนผู้เสียชีวิตในสหราชอาณาจักรของ 23 มี.ค. อยู่ที่ 54 ราย เป็นผู้ป่วยในวัย 47 ปี ถึง 105 ปี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นเป็น 335 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว 6,650 ราย
“ถ้าทั้งประเทศไม่ร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสนี้แล้ว วันที่เราไม่อยากเห็นก็จะมาถึง วันที่ไม่มีระบบสาธารณสุขในในโลกสามารถรับมือได้ วันที่เรามี หมอ พยาบาล เตียงผู้ป่วยหนัก และเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ” นายจอห์นสันกล่าวในการปราศรัยทางโทรทัศน์
นายจอห์นสัน บอกว่า ตำรวจจะออกสอดส่องผู้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดย อาจสั่งปรับ หรือ สั่งให้ผู้ชุมนุมสลายตัว
ในแถลงการณ์คืนนี้ นายกรัฐมนตรียังออกคำสั่งปิด ห้องสมุด สนามเด็กเล่น สนามออกกำลังกายกลางแจ้ง และศาสนสถานต่าง ๆ ในทันที ทว่า สวนสาธารณะจะยังเปิดต่อไปเพื่อการออกกำลังกายของแต่ละบุคคล แต่ห้ามการชุมนุมเกิน 2 คน
รัฐบาลยังสั่งห้ามงานพิธีการต่าง ๆ รวมถึงการแต่งงาน แต่ยังคงอนุญาตให้จัดงานศพได้
ในเบื้องต้นคำสั่งห้ามทั้งหมดมีผลบังคับเป็นเวลา 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นแล้วรํฐบาลจะมาทบทวนหากพบว่าสถานการณ์ดีขึ้น
อากาศที่สดใสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ประชาชนจำนวนมากออกมารับแสงแดดตามสวนสาธารณะ และอุทยานแห่งชาติ ไม่สนคำแนะนำของรัฐบาลเรื่องการรักษา ระยะห่างระหว่างบุคคล ทำให้รัฐบาลต้องประกาศมาตรการที่เข้มข้น